วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ดั้งแหมบขนาดนี้ยัง เสริมจมูก ได้เลยค่ะดี๊ดี

ดั้งแหมบขนาดนี้ยัง เสริมจมูก ได้เลยค่ะดี๊ดี




เราเคยหาข้อมูลเกี่ยวกับการ เสริมจมูก เห็นหลายคนบอกว่า
ถ้าเนื้อน้อยมากๆ
จะเสริมจมูกไม่ได้ เราก็คิดว่าเป็นหนึ่งในคนที่เนื้อน้อยเหมือนกัน 
เพราะอะไรน่ะหรอ
เพราะดั้งเราแหมบมากกกกก

มาดูรูปกันก่อนจ้า


เห็นมั้ยยยยย ดั้งเราแหมบมาก จมูกเล็กมาก เพื่อนก็ทักบ่อยๆ
ว่าหน้าแกรก็สวยนะเสียอย่างเดียวจมูกแบน หรือไม่ก็บอกว่าถ้าแกรไปเสริมจมูกอีกหน่อยก็ดูดีและ
เราก็เฮ้ยขนาดนั้นเลยอ่อ แล้วก็เริ่มสนใจที่จะเสริมจมูกค่ะ
นั่งหาข้อมูลเยอะมาก ทั้งการดูแลก่อนเสริมหลังเสริมจมูก เสริมแบบไหนทรงไหนถึงจะดี
รวมถึงคลินิกไหนน่าสนใจด้วย เราหาดูเยอะมากหาดูจนมึนเลย ก็ได้เป็นตัวเลือกอยู่ 3 คลินิกที่น่าสนใจคือ
ลอลักษณ์ เมโกะ แล้วก็ มาสเตอร์พีซ ในความคิดเห็นของเรา เราว่า
เมโกะ
เสริมจมูก กับหมอมนัส ที่จตุจักร ราคา 25,000
เลอร์ลักษณ์
เสริมจมูกทรง I-Dol Nose เกรดพรีเมี่ยม กับหมอกิติศักดิ์ ราคา 35,900
มาสเตอร์พีซ
เสริมจมูกซิลิโคนเกาหลีพรีเมี่ยม กับ หมอต้นชนกร ราคา 22,000
นั่งคิดไปสามตลบ ของเมโกะก็สวย เลอลักษณ์ก็ดี มาสเตอร์พีซก็แซบ แต่ต้องตัดเลอร์ลักษณ์ออกเพราะอยู่ไกลไป
เหลือเมโกะ กับมาสเตอร์พีซ เรื่องเดินทางก็สะดวกทั้งคู่ ส่วนราคามาสเตอร์พีซถูกกว่านิดหน่อย นั่งคิดอยู่นานค่ะ
เลยไปปรึกษากับเพื่อนว่าเสริมที่ไหนดี ถามอยู่ประมาณ 5 คนได้ สรุปผลก็ชี้เป้ามาที่มาสเตอร์พีซค่ะ
เพราะราคาไม่แรง แถมได้ข่าวว่าคุณหมอเป็นมือโปรจากเลอลักษณ์มาก่อนด้วย
ได้ที่แล้วเราก็โทรไปจองคิวค่ะ ที่นี่เค้าให้เข้าไปปรึกษาก่อนถึงจะได้คิวทำจมูกค่ะ
ก็โอเคนะปรึกษาฟรีแล้วค่อยตัดสินใจทีหลังก็ได้ เราเห็นบางที่ต้องจ่ายค่าปรึกษาก่อนอย่างต่ำก็ 500 แล้ว
แลดูมัดมือชกมากกก ไม่ปลื้มเลย เราก็เลยตกลงนัดปรึกษากับที่มาสเตอร์พีซไปค่ะ


หลังจากเข้าไปปรึกษาคุณหมอแล้วก็ต้องบอกว่าประทับใจในระดับนึงค่ะ
เพราะคุณหมอค่อนข้างพูดตรงดีค่ะ เค้าว่าเราเป็นคนจมูกแบนมากก็จริง แต่มีเนื้อจมูกพอสมควร
(ผิดกับที่เราเคยคิดว่าเนื้อน้อยเลย) ถ้าทำออกมาจะไม่ได้ดูโด่งมากนะ แต่หน้าจะดูคมขึ้นสวยขึ้นแน่นอน
พอปรึกษาเสร็จพนง.ก็ดูแลดีอยู่ ตอนแรกเราว่าจะกลับไปคิดก่อนแล้วค่อยมัดจำ แต่พอเจอแบบนี้ก็รู้สึกถูกชะตาดีค่ะ
ก็ตกลงเสริมจมูกเลย รอไปประมาณสองอาทิตย์เลยค่ะ
ถึงวันนัดเรามาก่อนเวลาเกือบสองชั่วโมง พนง.เลยให้เราไปเดินเล่นก่อน
ถึงเวลาจะโทรหา เราก็เดินช้อปปิ้งกับเพื่อนเลยเพลินๆ พนง.โทรมาอีกทีเลยเวลานัดไปตั้งครึ่งชั่วโมง
แต่พนง.เค้าก็ขอโทษขอโพยอยู่พักใหญ่ เพราะหมอติดเคสก่อนหน้าเลยทำให้เวลาเคลื่อน เราก็โอเคไม่เป็นไร เค้าขอโทษแล้ว
เราควรให้อภัยซิเนาะ ถึงคลินิกพนง.รีบพาเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างเครื่องสำอาง
แล้วก็พาเข้าห้องผ่าตัด เราก็นอนรอที่เตียง พยาบาลก็มาเปิดเพลงให้เราฟัง แล้วก็คลีนหน้าให้เราอีกรอบนึง
พอคุณหมอมาก็ถามเราเป็นยังไงบ้างชวนคุยนิดหน่อย ถามว่าเราตื่นเต้นมั้ย เราก็บอกว่าพอไหว
คุณหมอก็พูดว่างั้นเดี๋ยวหมอฉีดยาชานิดนึงนะด้วยความที่เราไม่เคยทำอะไรกับร่างกายเลย
ทำให้เกร็งมากจนพยาบาลบอกว่าทำตัวสบายๆ นะคะ ไม่ต้องเกร็ง ฉีดยาชาเสร็จ
คุณหมอก็ใช้เครื่องอะไรไม่รู้มาถ่างจมูกเราค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นมันชาไปหมด
พอคุณหมอทำเสร็จเอาจมูกมาให้ดูมันเป็นอะไรที่แบบ เฮ้ยนี่คนหรืออวตาร เกือบร้องไห้แล้ว
แต่ตุณหมอก็บอกกับเราก่อนว่ามันเป็นอาการบวมเฉยๆ ถ้าผ่านไปซักพักก็จะหายบวมเอง
เลยใจชื้นมานิดนึง มาดูจมูกหลังเสริมแล้วของเรากันจ้า




เห็นมั้ยว่าจมูกวันแรกเราบวมมากสันเกือบเท่ากับหน้าผากแหนะ แต่พอ 7 วันก็ยุบลงมาเยอะค่ะ
ดีใจมากเพราะตอนแรกกลัวไม่ยุบ พอครบ 1 เดือนก็ไปติดตามผลกับคุณหมอค่ะ
รู้สึกปลายจมูกดูเรียวยาวขึ้น มีแต่คนทักว่าหน้าสวยดูดีขึ้นนะ เราก็ปลื้มนะถึงจมูกจะไม่ได้โด่งเหมือนสาวฝรั่ง
แค่ไม่โด่งแบบอวตารก็พอใจแล้วค่ะ ตอนนี้เราทำมาได้ 2 เดือนแล้วรู้สึกว่าซิลิโคนรัดเข้าจมูกมากขึ้น
หลังจากอยู่กับจมูกน้อยๆ มายี่สิบกว่าปี ในที่สุดก็ได้มีจมูกใหม่ๆ จมูกโด่งๆ กับเค้าซักที น้ำตาไหล
ยังไงเดียวอีก 6 เดือนเรามารีวิวให้ดูใหม่นะคะ ว่าจมูกจะเป็นยังไงเพราะเค้าว่ากันว่า 6 เดือน
จมูกถึงจะเข้าที่ของจริง เราก็ขอจบการรีวิวเท่านี้ค่ะ บ๊ายบายค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น